บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรี ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก และคู่แข่งอีก 2 ราย คือ ซัมซุง เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ และแดวู ชิปบิลดิ้ง แอนด์ มารีน เอ็นจิเนียริ่ง จะเพิ่มยอดสั่งซื้อเหล็กแผ่นอย่างน้อย 7.8 ล้านเมตริคตันในปีนี้ หรือคิดเป็น 11% ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่จะช่วยกระตุ้นกิจการของบริษัทเหล็กในเอเชียให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ยอดสั่งซื้อเหล็กของบริษัทเหล็กเกาหลีใต้คาดว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทเหล็ก อาทิ เป๋าชาน ไอรอน แอนด์ สตีลของจีน และดองกุ๊ก สตีล มิลล์ ซึ่งมียอดขายจากเหล็กแผ่นถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนยอดขายทั้งหมด
ทั้งนี้ ราคาเหล็กแผ่นของจีนร่วงลงไป 26% ในปีที่แล้ว ขณะที่บริษัทต่อเรือรายเล็กๆต้องเผชิญกับปัญหาในการต่อเรือให้ได้ตามสัญญา
บลูมเบิร์กรายงานว่า คิม ยอง โซ นักวิเคราะห์ของบล.เอสเค กล่าวว่า ความต้องการเหล็กของบริษัทต่อเรือนั้น ถือเป็นความหวังที่โดดเด่นความหวังเดียวของบริษัทต่อเรือในปีนี้ เนื่องจากอุปทานยังคงสูงกว่าอุปสงค์
บริษัทเหล็กทั่วโลกต่างลดราคาสินค้าและลดการผลิตลง เนื่องจากความต้องการจากค่ายรถและธุรกิจก่อสร้างที่ร่วงลง ดีมานด์ที่ปรับตัวลดลงนี้อาจจะบีบให้อาร์เซลอร์ มิตตาล และ ThyssenKrupp AG ต้องบันทึกยอดมูลค่าหนี้สูญถึง 6.09 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์ของโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ระบุ
นิปปอน สตีล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก อาจจะทำให้ยอดการผลิตลดลงไปถึง 2 เท่า ด้วยการปิดเตาหลอมที่โรงงานใกล้กับกรุงโตเกียวมูลค่า 2.4 ล้านเมตริคตัน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยบั่นทอนดีมานด์จากบริษัทรถและธุรกิจก่อสร้าง