กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 มีอยู่ทั้งสิ้น 2.6 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐทรุดตัวลงทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ โดยในภาคอุตสาหกรรมลดการจ้างงาน 791,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในเดือนธ.ค.ปี 2550 ขณะที่การจ้างงานในภาคการก่อสร้างลดลง 101,000 ตำแหน่ง ภาคบริการ 81,000 ตำแหน่ง ภาคค้าปลีก 67,000 ตำแหน่ง และค้าส่ง 30,000 ตำแหน่ง
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค.จะร่วงลง 500,000 ราย และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้าน, บริษัทรถยนต์, ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทค้าปลีก ได้ปลดพนักงานจำนวนมากเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "ตัวเลขว่างงานที่ร่วงลงอย่างรุนแรงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้ต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรอบ รวมถึงมาตาการกระตุ้นการจ้างงาน เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ โอบามายังต้องเจอโจทย์หินในเรื่องการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภาคการผลิต และภาคบริการ ที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว"
ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพ.ย.ร่วงลง 533,000 ตำแหน่ง ซึ่งร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค. สำนักข่าวเอพีรายงาน