สถาบันวิจัยเศรษกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของอังกฤษ หดตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่หดตัวเพียง 0.6% รายงานของสถาบันฯระบุว่า "ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 หดตัวรุนแรงมาก ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะที่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 315 ปีของธนาคารกลางอังกฤษ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอย
สจ๊วต โรเบิร์ตสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท เอวิวา อินเวสท์เตอร์ส กล่าวว่า "เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มอ่อนแอลงมาก และคาดว่าจะทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะทำให้ธนาคารกลางอังกฤษและรัฐบาลอังกฤษ หันมาร่วมมือกันมากขึ้น"
เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ เปิดเผยว่า ราคาบ้านของอังกฤษในปี 2551 ร่วงลงหนักสุดในรอบ 18 ปี ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในธุรกิจธนาคารที่คุมเข้มการออกสินเชื่อจนส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านต่างพากันปลีกตัวออกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2547 จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงขึ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน