ชากิบ เคลิล รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของอัลจีเรีย กล่าวว่า อัลจีเรียจะเพิ่มปริมาณการส่งก๊าซไปยังยุโรปหากไม่ขัดต่อสัญญาที่ทำไว้กับบางประเทศ
นายเคลิลกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับมาเรีย แวน เดอ โฮเวน รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ว่า อัลจีเรียมีสัญญาส่งก๊าซระยะยาวกับประเทศยุโรปบางประเทศ ดังนั้นการเพิ่มปริมาณการส่งก๊าซต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา หากขัดต่อสัญญาคงไม่สามารถทำได้
นอกจากนั้นนายเคลิลยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจนส่งผลกระทบต่อการส่งก๊าซไปยังยุโรปเป็นเพียงปัญหาทางธุรกิจ มิใช่ปัญหาทางการเมือง
แวน เดอ โฮเวน กล่าวว่า บริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติของอัลจีเรีย ต้องการสร้างความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันของฮอลแลนด์ในการก่อสร้างคลังกักเก็บและขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในฮอลแลนด์ เพื่อขยายความสามารถในการขนส่งก๊าซและก๊าซเหลวไปยังกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันตก
อัลจีเรียส่งออกก๊าซไปยังยุโรปมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และการส่งออกก๊าซเหลวก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ยอดส่งออกก๊าซของอัลจีเรียอยู่ที่ระดับ 6.2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และตั้งเป้าขยายการส่งออกให้ถึง 8.5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีภายในปี 2555
ทั้งนี้ วิกฤตด้านพลังงานในยุโรปเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัท ก๊าซพรอม ของรัสเซีย และบริษัท นาฟโทก๊าซ ของยูเครน มีปัญหาขัดแย้งกันจนทำให้รัสเซียยุติการจัดส่งก๊าซให้กับยูเครนตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยก๊าซพรอมได้กล่าวหาว่านาฟโทก๊าซลักลอบขโมยก๊าซและไม่ได้จ่ายเงินตามกำหนด ซึ่งความขัดแย้งครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุปทานก๊าซธรรมชาติที่มีการจัดส่งไปยังทวีปยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน