บริษัท ซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด คาดว่า จะต้องมีการกำหนดตัวเลขรายได้ใหม่อีกครั้ง และอาจจะถึงขั้นละล้มลาย หลังจากที่ผู้ก่อตั้งบริษัทถูกจับกุมในข้อหาโกงครั้งประวัติศาสตร์ของอินเดีย โดยผู้บริหารใหม่ 3 รายภายใต้การนำของ ดีพัค ปาเรค ประธานบริษัท Housing Development Finance Corp. จะประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อหารือเรื่องซื้อกิจการบริษัท ซัตยัมฯ หลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้เปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่และจับกุมตัวนายรามาลิงกา ราจู ประธานบริษัทไว้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดีพัค ปาเรค ประธานบริษัท เฮาซิ่ง เดเวลล็อปเมนท์ ไฟแนนซ์ กล่าวว่า เราจำเป็นต้องประเมินความเสียหายของกรณีนี้ และหลังจากนั้น เราจึงจะประเมินตัวเลขในบัญชีอีกครั้ง
ราจูได้ออกมายอมรับว่า ตนเองบิดเบือนเงินสดและสินทรัพย์จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ จนทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงอย่างหนัก อีกทั้งยังทำให้ผู้ซื้อหุ้นของบริษัทต้องขาดทุน 2.2 พันล้านดอลลาร์ และอาจจะทำให้ลูกค้าหนีหาย
ราเชนดรา จิทาลี เมเนจจิ้ง พาร์ทเนอร์ของเอ็ม.พี. จิทาลี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า วิธีแก้ปัญหาคือ การตั้งบริษัทข้นมาอีกหนึ่งบริษัทแล้วขายออกไป ซึ่งผู้ซื้อบริษัทจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน เหมือนกับการขายเครื่องประดับของครอบครัวเพื่อล้างหนี้
ผู้บัญชาการตำรวจอินเดียมีคำสั่งให้จับกุมตัวนายบี รามาลิงกา ราจู ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศรายใหญ่อันดับ 4 ของอินเดีย และให้นำมาตัวมาขึ้นศาลเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาตกแต่งบัญชีเกินจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายบี รามาลิงกา ราจู พร้อมด้วยนายรามา ราจู น้องชายของเขาซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารซัตยัม
นายราจูยอมสารภาพว่าเขามีส่วนรู้เห็นกับการที่ซัตยัมตกแต่งบัญชีเกินจริง นอกจากนี้ ลูกค้าของซัตยัมในในหลายประเทศยื่นฟ้องร้องเอาผิดบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารซัตยัมได้พยายามควบคุมความเสียหาย โดยให้การรับรองว่าจะดำเนินการสอบสวนการฉ้อโกง และแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
กรณีโกงครั้งใหญ่ของซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส กำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นของบริษัทอินเดีย อีกทั้งยังเป็นการปิดฉากการเริ่มต้นปีวัวที่สดใสที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 ของตลาดหุ้นอินเดีย