โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะตีกรอบค่าเงินหยวนให้เคลื่อนไหวไว้ในช่วงแคบๆในปีนี้ เพราะเกรงว่าการปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่ามากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อบริษัทส่งออกของจีนที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความต้องการสินค้าจีนทั่วโลกที่ถดถอยลง
ค่าเงินหยวนยังคงทรงตัวนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ธนาคารกลางจีนให้คำมั่นสัญญาว่า จะรักษาเสถียรภาพเงินหยวนเพื่อให้ผู้ส่งออกของจีนสามารถเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมถึงสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น โดยยอดส่งออกของจีนร่วงลง 5.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 10 ปี
เฮเลน เจี่ย และซอง ยู สองนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะตีกรอบค่าเงินหยวนให้เคลื่อนไหวใกล้ระดับกับที่เคยผูกติดกับดอลลาร์เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ภาคส่งออกของจีนสามารถลืมตาอ้าปากได้หลังจากถูกกระทบจากยอดสั่งซื้อสินค้าจีนถดถอยลงทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่สินค้าจีนถูกเรียกคืนเนื่องจากการปนเปื้อนสารเมลามีน
ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 21% นับตั้งแต่ธนาคารกลางจีนประกาศยุติการผูกติดค่าเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค.ปี 2548 ซึ่งส่งทำให้ผลประกอบการของบริษัทส่งออกของจีนทรุดตัวลง อีกทั้งยังทำให้สินค้าจีนมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกน้อยกว่าประเทศคู่แข่งรายอื่นๆ นอกจากนี้ ยอดส่งออกที่ร่วงลงยังทำให้นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนใช้ยุทธศาสตร์ผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวกว่า 8%ต่อปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน