บสย.ขอคลังเพิ่มทุน 3 พันลบ.สนองนโยบายรัฐช่วยค้ำหนี้เพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 12, 2009 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย.จะขออนุมัติวงเงินเพิ่มทุนจากภาครัฐราว 3 พันล้านบาทเพื่อให้มีเงินเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ หากรัฐบาลต้องการให้บสย.เข้าไปรับภาระการค้ำประกันสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)วงเงินราว 2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 52 บสย.กำหนดเป้าหมายการค้ำประกันสินเชื่อรวม 1.3 หมื่นล้านบาท แยกเป็นตามการดำเนินธุรกิจปกติ จำนวน 6 พันล้านบาท และการค้ำประกันตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติมอีก 7 พันล้านบาท โดยธนาคารสามารถใช้เงินทุนของธนาคารใช้ค้ำประกันสินเชื่อได้เพียงพอ

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า บสย.ได้นำเสนอหลักการของแนวทางดังกล่าวให้คณะกรรมการ บสย. ที่มีนายนริส ชัยสูตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังเป็นประธานพิจารณาแล้ว และเตรียมหารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังในเร็วๆ นี้

สำหรับการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.จะเน้นการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นรายย่อย โดยมีการปรับปรุงการพิจารณาการค้ำประกันที่รวดเร็ว โดยใช้รูปแบบการรับความเสี่ยงร่วมกัน และมุ่งเน้นการค้ำประกันแบบ Portfolio Guarantee Scheme ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 52 นี้ เพื่อจูงใจให้สถาบันการใช้บริการ บสย.มากขึ้น

ในส่วนการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล จะกำหนดเป็นมาตรการค้ำประกันสินเชื่อที่สอดคล้องกับสถาบันการเงินอื่น และผ่อนปรนหลักเกณฑ์การรค้ำประกัน คิดค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น โดยเพิ่มมาตรการช่วยเหลือ 3 แนวทาง คือ ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเมือง การค้ำประกันผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว และค้ำประกัน SMEs ที่เป็น NPL แต่ยังมีศักยภาพแก้ไขได้

ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าช่วยเหลือ SMEs 3 กลุ่มเดิม คือ ผู้ประกอบการ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ SMEs ระดับรากหญ้า และ กลุ่มโอท็อป

กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานของ บสย.ในปี 51 ให้การค้ำประกันสินเชื่อรวม 1,366 โครงการ วงเงินรวม 3,253.47 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4,100 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยมีการค้ำประกันธุรกิจ SMEs ในกลุ่มเกษตรกรรมมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ กลุ่มการผลิตสินค้าและสินค้า และกลุ่มการบริการ

ส่วนภาระค้ำประกัน ณ สิ้น 31 ธ.ค. 51 มียอดคงเหลือ 8,632 ราย เป็นวงเงิน 21,855.67 ล้านบาท มียอดหนี้จัดชั้นด้อยคุณภาพ 18.90% คิดเป็น 4,131.04 ล้านบาท ของภาระค้ำประกันคงเหลือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ