ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร จากกระแสคาด ECB ลดดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 13, 2009 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการร์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมสัปดาห์นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3382 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3437 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4827 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5169 ดอลลาร์/ปอนด์

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 89.070 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 90.310 เยน/ดอลลาร์ แต่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1130 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1128 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6796 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7030 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ระดับ 0.5769 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5900 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากการที่แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปที่หดตัวลงกำลังบีบให้ฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีเร่งลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือระดับ 0% แม้ก่อนหน้านี้ทริเชต์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับดังกล่าวก็ตาม

"ก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือน ประธานอีซีบียืนกรานว่าจะไม่ยอมทำตามแรงกดดันของหลายประเทศในยุโรปที่ให้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานทริเชต์จะกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการลดดอกเบี้ยจนถึงระดับศูนย์เพราะเศรษฐกิจในยุโรปถดถอยรวดเร็วมาก สถานการณ์เศรษฐกิจของยุโรปเข้าขั้นอันตราย จึงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีที่ 15 ม.ค.นี้" กิลเลส โมอิค นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าว

ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะที่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 315 ปีของธนาคารกลางอังกฤษ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอย

สถาบันวิจัยเศรษกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 ของอังกฤษ หดตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่หดตัวเพียง 0.6% รายงานของสถาบันฯระบุว่า "ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 หดตัวรุนแรงมาก ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ