กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนพ.ย. 2551 หดตัวลง 65.9% แตะ 5.81 แสนล้านเยน หรือ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 เนื่องจากยอดส่งออกร่วงลงตามภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะหดตัวลงมาอยู่ที่ 6 แสนล้านเยน
ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของญี่ปุ่นนั้นกำลังดำดิ่งลงเรื่อยๆ ขณะที่วิกฤตการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่อความต้องการรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้บริษัทต่างๆลดการผลิตและการลงทุนลง โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป บริษัทรถรายใหญ่ของประเทศก็คาดการณ์ว่าบริษัทจะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี และจะระงับการผลิตที่โรงงานภายในประเทศญี่ปุ่น 12 แห่งเป็นเวลา 11 วันในช่วงเดือนก.พ.และมี.ค.
โยชิกิ ชินเกะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของไดอิชิ ไลฟ์ รีเสิร์ช อินสทิทิว กล่าวว่า ช่วงขาลงของเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะดิ่งลงมาก และการส่งออกอาจจะหดตัวลงไปมากกว่านี้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมทั้งกำไรของเอกชนและการลงทุนที่ย่ำแย่ลง
ยอดส่งออกของญี่ปุ่นเมื่อเดือนพ.ย.ร่วงลงไป 26.5% จากระดับปีที่แล้ว ส่วนยอดการนำเข้าอ่อนตัวลง 13.7%
เงินเยนที่แข็งค่าขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วกำลังส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ส่งออกและยังลดมูลค่าการลงทุนของญี่ปุ่นในต่างประเทศ โดยเงินเยนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ปีที่แล้วที่ 87.14 เยน
ทุกๆครั้งที่เงินเยนมูลค่า 1 เยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรจะทำให้กำไรจากการปฏิบัติการของโตโยต้าลดลงไป 4 หมื่นล้านเยน และ 6 พันล้านเยน