โรยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ อาจประสบภาวะขาดทุน 3.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ก้อนใหญ่ที่สุดให้กับไลออนเดลล์ เคมิคอล โค (Lyondell Chemical Co.) บริษัทด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์ของสหรัฐที่ล้มละลาย ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปคาดว่าธนาคารอาจขาดทุน 1.4 พันล้านดอลลาร์จากการออกเงินกู้ 2 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทดังกล่าว
แอนดริว แบรดดีย์ นักวิเคราะห์จากเครดิตไซท์ อิงค์ ในนครนิวยอร์ก กล่าวว่า โรยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์อาจต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ได้ซื้อกิจการแผนกวาณิชธนกิจของเอบีเอ็น แอมโร โฮลดิ้ง เอ็นวี ซึ่งอาจขาดทุนจากการออกสินเชื่อ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไลออนเดลล์
"RBS ต้องเผชิญความเสี่ยงในการออกเงินกู้ให้กับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผิดพลาด" ไซมอน วิลลิส นักวิเคราะห์หุ้นการเงินอังกฤษจาก NCB Stockbrokers Ltd ในลอนดอนกล่าว ขณะที่โฆษกของ RBS กล่าวว่า "สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงานเท่านั้น ซึ่งเรายังไม่อยากคาดเดาต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความเคลื่อนไหวในแง่ลบออกมา แต่ทางสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วง 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หุ้นโรยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ขยับขึ้น 54 เซนต์ ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ทั้งนี้ เอบีเอ็น แอมโร, ซิตี้กรุ๊ป, ยูบีเอส เอจี, เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ล้วนเป็นเจ้าหนี้ของไลออนเดลล์ เคมิคอล ซึ่งยื่นพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยยูบีเอสอาจมียอดปรับลดมูลค่าทางบัญชีสูงสุดถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก ขณะที่ซีอีโอของ RBS เผยว่า ธนาคารอาจมียอดปรับลดมูลค่าทางบัญชีมากกว่า 7 พันล้านปอนด์ (1.04 หมื่นล้านดอลลาร์) จากตัวเลขขาดทุนด้านสินเชื่อในปีที่ผ่านมา โดยธนาคารได้รับแรงกดดันให้ต้องรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 2.0 หมื่นล้านปอนด์ หลังจากเข้าซื้อกิจการของเอบีเอ็น แอมโร