โซนี่ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอาจต้องประสบกับภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีนับจากปี 2538 ที่ 1 แสนล้านเยน (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากยอดขายจอแอลซีดีและผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ซบเซา รวมถึงผลการดำเนินงานที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินเยนจนทำให้กำไรจากการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศลดลง
นอกจากนี้ นสพ.นิกเกอิรายงานว่า ตัวเลขขาดทุนของโซนี่อาจพุ่งสูงสุดถึง 2 แสนล้านเยน (2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากแผนกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นแผนกที่สร้างรายได้หลักของบริษัทมาเป็นเวลานานนั้นประสบภาวะขาดทุน อย่างไรก็ตาม โฆษกของโซนี่ปฏิเสธที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว
ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โซนี่ได้ปรับลดประมาณการผลกำไรจากการดำเนินงานลง 57% มาอยู่ที่ 2 แสนล้านเยน ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ในระดับ 4.70 แสนล้านเยน และเมื่อเดือนที่แล้ว โซนี่ได้ประกาศถึงแผนการปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงการปลดพนักงาน 4% และปิดโรงงานบางแห่งเพื่อประคับประคองให้บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ซึ่งนอกจากโซนี่แล้ว บริษัทผู้ส่งออกของญี่ปุ่นรายใหญ่อย่างโตโยต้าและทีดีเคต่างก็ประกาศลดการจ้างงานและค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า หุ้นของโซนี่ร่วงลง 8% ในการซื้อขายช่วงเปิดตลาดเช้านี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลง 4.4%