ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ขอให้สภาคองเกรสปล่อยเงินที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านดอลลาร์ให้รัฐบาลนำไปใช้ช่วยเหลือด้านการเงินแก่ภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย พร้อมดำเนินการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการเงินต่อเนื่อง
คำขอของบุชมีขึ้นสืบเนื่องจากที่ว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ขอให้สภาอนุญาตให้รัฐบาลนำเงินจำนวนดังกล่าวออกมาใช้ได้ทันเวลากับที่เขาเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ สภาคองเกรสได้อนุมัติแผนอุ้มภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์เมื่อเดือนต.ค.2551 ในขณะที่สถาบันการเงินรายใหญ่ของประเทศใกล้ล้มละลายเนื่องจากแบกรับภาระหนี้เสียอันมีต้นตอมาจากสินเชื่อบ้าน ซึ่งคณะทำงานของบุชก็ได้ใช้เงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์อัดฉีดให้กับธนาคารหลายแห่งและช่วยเหลือบริษัทการเงินให้รอดพ้นจากการล้มละลาย นอกจากนี้ยังได้นำเงินส่วนหนึ่งในแผนการดังกล่าวไปช่วยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ แอลแอลซีด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กฎหมายให้เวลาสมาชิกสภานิติบัญญัติ 15 วันเพื่อตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้รัฐบาลนำเงินจำนวนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านดอลลาร์ไปใช้หรือไม่ ซึ่งบุชก็ได้ยื่นคำร้องยาว 18 หน้าต่อสภาคองเกรส ระบุว่า เงินจำนวนที่เหลือจะถูกนำไปใช้ช่วยเจ้าของบ้านที่กำลังจะถูกยึดบ้าน รวมถึงใช้ในโครงการต่างๆที่มีอยู่
"คณะทำงานได้ยื่นรายงานฉบับนี้ตามคำขอของท่านว่าที่ประธานาธิบดี และเชื่อว่าการยื่นรายงานในเวลานี้สอดคล้องกับความจำเป็นในการส่งเสริมเสถียรภาพของตลาดการเงินที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง"