"เบอร์นันเก้"หนุนแผนฟื้นเศรษฐกิจของ"โอบามา" แนะทำควบคู่กับสร้างเสถียรภาพระบบการเงิน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 14, 2009 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่ London School of Economics ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และสภาคองเกรสพยายามผลักดันนั้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เตือนว่าเศรษฐกิจยังไม่สามารถขยายตัวอย่างยั่งยืนได้นอกเสียจากว่าจะใช้มาตรการฉบับดังกล่าวควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เบอร์นันเก้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 8 แสนล้านของโอบามา แม้ในช่วงที่ผ่านมาเบอร์นันเก้จะออกมาแสดงความเห็นทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ก็ตาม โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขาสนับสนุนแนวคิดของโอบามาที่จะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับมหภาค รวมถึงการลดหย่อนภาษี และการเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ครอบคลุมถึงโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่

"มาตรการของโอบามาเป็นสิ่งจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาค และเป็นท่าทีที่ถูกต้องของรัฐบาลในยามที่เศรษฐกิจของประเทศเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ คณะทำงานของโอบามาและสภาคองเกรสตอบสนองปัญหาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและจริงจัง" เบอร์นันเก้กล่าว

อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่สามารถขยายตัวอย่างยั่งยืนได้นอกเสียจากจะมีการใช้มาตรการควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสอนเราว่าทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่ไม่สามารถก้าวหน้าได้หากระบบการเงินไม่ทำงานตามกลไกที่ควรจะเป็น ดังนั้นผมจึงย้ำว่ามาตรการของโอบามาต้องทำควบคู่ไปกับเรื่องนี้"

เบอร์นันเก้คาดว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐจะอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.ปี 2551 ของสหรัฐร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 มีอยู่ทั้งสิ้น 2.6 ล้านตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นบ้างในช่วงปลายปีนี้ แต่ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน รวมถึงความเคลื่อนไหวในตลาดสินเชื่อ

ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า "การอัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ระบบการเงินและการรับประกันตราสารหนี้ของสถาบันการเงินยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเสถียรภาพในระบบการเงินและยังช่วยกระตุ้นการปล่อยกู้ในระบบให้ไหลเวียนตามปกติด้วย หากรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของโอบามา และนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ ว่าที่รมว.คลังสานต่อนโยบายนี้ต่อไป ก็จะช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวในระบบการเงินได้"

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ครั้งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX เดือนก.พ.ปิดบวกเมื่อคืนนี้ และช่วยพยุงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ