ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มต้นศักราชปี 2552 ถดถอยลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันวิตกกังวล อีกทั้งฉุดยอดค้าปลีกร่วงลงและบีบให้ภาคอุตสาหกรรมปรับลดกำลังการผลิตถ้วนหน้า
รายงานของเฟดระบุว่า "ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเกือบทุกภูมิภาคของสหรัฐถดถอยลงอย่างชัดเจนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะซบเซาต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะตัวเลขตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ที่ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ทำให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 พุ่งขึ้นเป็น 2.6 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี"
"ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนักในแทบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า คริสต์มาส และปีใหม่ โดยยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนธ.ค.2551 ดิ่งลง 2.7% ทำสถิติร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และทำให้ยอดค้าปลีกโดยรวมตลอดปีลดลง 0.1% สวนทางกับที่พุ่งขึ้น 4.1% ในปี 2550 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขค้าปลีกรายปีลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2535"
"ขณะที่ภาคการผลิตทรุดตัวลงในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในเดือนพ.ย.ที่ภาคการผลิตตกต่ำลง 0.6% โดยมีรายงานว่าบริษัทอุตสาหกรรมในบอสตัน, ฟิลาเดลเฟีย, คลีฟแลนด์, มินนิอาโพลิส, ชิคาโก และแคนซัส ซิตี้ จะลดกำลังการผลิตลงอีกและอาจลดการใช้จ่ายด้านทุนในปีนี้ ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราการปล่อยกู้จะยังคงลดลงเช่นกัน" รายงานของเฟดระบุ
รายงานยังกล่าวด้วยว่า บริษัทค้าปลีกหลายแห่งในฟิลาเดลเฟีย, แอตแลนต้า, แคนซัส ซิตี้ และดัลลัส ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลประกอบการ เพราะผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง ขณะที่ยอดขายในคลีฟแลนด์และบอสตัน มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน ส่วนในภาคบริการนั้น ชะลอตัวลงแทบทุกภูมิภาค รวมถึงการบริการด้านการขนส่งและท่องเที่ยว
"เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะถดถอยรุนแรงในขณะนี้ และคาดว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ไตรมาสจึงจะฟื้นตัวขึ้น" แกรี สเติร์น ผู้ว่าการเฟดสาขามินนิอาโพลิส กล่าว
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 27-28 ม.ค.ปีนี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวเอพีรายงาน