โมโตโรล่า อิงค์ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า บริษัทเตรียมปลดพนักงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือ โดย 3 ใน 4 ของพนักงานที่ถูกปลดครังนี้มาจากแผนกอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยการปลดพนักงานครั้งนี้มีขึ้นหลังจากโมโตโรล่าประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 3,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะซบเซาในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือทำให้บริษัททำกำไรได้ยากขึ้น
โมโตโรล่าได้ปลดพนักงานไปแล้วประมาณ 16,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่ปี 2550 หลังจากที่เอที แอนด์ ที อิงค์, เวอไรซอน คอมมิวนิเคชันส์ และสปรินท์ เน็กซ์เทล คอร์ป พากันลดจำนวนพนักงานไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือส่งผลให้ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ยอดขายโทรศัพท์มือถือทั่วโลกจะร่วงลง 13% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 ปี
เกร็ก บราวน์ และซานเจย์ จาฮา สองซีอีโอของโมโตโรล่า ประกาศระงับแผนจ่ายเงินบำเน็จบำนาญแก่พนักงานในสหรัฐ และลดเงินเดือนของผู้บริโภคเพื่อเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยจาฮากล่าวว่า โมโตโรลาจะใช้ซอฟท์แวร์ Android ของกูเกิลในการสร้างอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อแข่งขันกับแอปเปิล และซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์
ผลประกอบการของโมโตโรล่าร่วงลงเหลือเพียง 7-7.2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าผลประกอบการของโมโตโรล่าจะอยู่ที่ 7.47 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขายร่วงลง 27% จากปีที่แล้ว เหลือเพียง 7 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นโมโตโรล่าร่วงลง 5 เซนต์ แตะที่ 4.06 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ และร่วงลงทั้งสิ้น 72% ในปีที่แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน