นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เผยเตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า(20 ม.ค.) ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติม หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติการจัดทำงบประมาณกลางปี 1.167 แสนล้านบาทไปก่อนหน้านี้ โดยจะเป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน
รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเร่งกระจายงบประมาณลงไปให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุดเพื่อกระตุ้นการบริโภค ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการเพิ่มกำลังการผลิต แต่ไม่ใช่มาตรการที่จะไปสนับสนุนให้ประชาชนก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น
วานนี้(14 ม.ค.)คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีและธุรกิจท่องเที่ยว ด้วยการลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการแต่จะไม่ใช่มาตรการทางภาษี แต่จะผลักดันผ่านสถาบันการเงินของรัฐ เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกของปีนี้(ม.ค.-มี.ค.52) ยอดจองห้องพักลดลงถึง 50% ซึ่งมีสาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รมว.คลัง เชื่อว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการต่างๆ แล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75% มาอยู่ที่ 2.0% นั้น รมว.คลัง กล่าวว่า จะช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ แต่ปัญหาในขณะนี้เกิดจากอุปสงค์มากกว่าอุปทาน ดังนั้นรัฐบาลจะหามาตรการกระตุ้นการบริโภคและความต้องการสินค้าให้มากขึ้น