World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 15 ม.ค. 2552

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 15, 2009 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 ม.ค.พุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จากบริษัทแพลทส์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกเบนซินเพิ่ม 2.1 ล้านบาร์เรล

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนธ.ค.2551 ดิ่งลง 2.7% ทำสถิติร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 จากระดับที่ทรุดตัวลง 2.1% ในเดือนพ.ย. และยังร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 1.2%

-- ญี่ปุ่นเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ย. 2551 ร่วงเป็นประวัติการณ์ 16.2% จากเดือนต.ค. นับเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ตกลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในการลงทุน

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่นรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปี 2551 พุ่งขึ้น 4.6% จากระดับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 28 ปี และยังเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว จากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่ดีดตัวขึ้นสูงมาก

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มต้นศักราชปี 2552 ถดถอยลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันวิตกกังวล อีกทั้งฉุดยอดค้าปลีกร่วงลงและบีบให้ภาคอุตสาหกรรมปรับลดกำลังการผลิตถ้วนหน้า

-- โมโตโรล่า อิงค์ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า บริษัทเตรียมปลดพนักงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือ โดย 3 ใน 4 ของพนักงานที่ถูกปลดครังนี้มาจากแผนกอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยการปลดพนักงานครั้งนี้มีขึ้นหลังจากโมโตโรล่าประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 3,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะซบเซาในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือทำให้บริษัททำกำไรได้ยากขึ้น

-- ราห์ม เอ็มมานูเอล หัวหน้าคณะทำงานของนายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐกล่าวว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่กำลังอยู่ในระหว่างหารือกันในสภาคองเกรสจะมีมูลค่าสูงถึง 8.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมถึงวงเงินที่ใช้ในมาตรการปรับลดภาษีมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์

-- ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์จากการสู้รบกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาในบริเวณฉนวนกาซาพุ่งสูงเกิน 1,000 คนแล้ว โดยผู้เสียชีวิตประมาณ 1 ใน 3 เป็นเด็ก ส่วนยอดผู้บาดเจ็บสูงถึงเกือบ 5,000 คน ขณะที่อียิปต์ยังคงใช้ความพยายามที่จะผลักดันให้ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการหยุดยิง

-- ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวาระสุดท้ายก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยยูเอสเอ ทูเดย์/กัลลัพ ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นในวันนี้ ชี้ชาวอเมริกัน 34% พอใจผลงานของบุชในฐานะประธานาธิบดี เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา และยังเป็นคะแนนนิยมสูงสุดที่บุชได้รับในปีนี้จากการสำรวจของยูเอสเอ ทูเดย์/กัลลัพ

-- สำนักงานสถิติของออสเตรเลียเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเดือนธ.ค. 2551 ดีดตัวขึ้น 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากบริษัทเหมือง สายการบิน และบริษัทผู้ผลิตรถได้ปลดพนักงานประจำ ประกอบกับมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะเผชิญกับภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544

-- บริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ เปิดเผยว่า สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิ้ล ยื่นใบลาป่วยจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ส่งผลให้ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง 6.4% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนข้องใจในสุขภาพของจ็อบส์ นับตั้งแต่เขาเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งในตับอ่อนเมื่อปี 2547 อีกสร้างความวิตกกังวลว่า จ็อบส์อาจจะไม่สามารถคุมบังเหียนแอปเปิ้ลที่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2519 และเป็นตัวตั้งตัวตีในการยกเครื่ององค์กรแอปเปิ้ลในปี 2540 จนทำให้ผลิตภัณฑ์ iPod และ iPhone ของแอปเปิ้ลเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

-- บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ จะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ในที่สุด หลังจากที่มีรายงานว่าว่าที่ขุนคลังสหรัฐเคยหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอยู่ช่วงหนึ่ง อีกทั้งยังเคยว่าจ้างคนรับใช้ชาวต่างชาติที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุด้วย

-- เอออน คอร์ป (Aon Corp) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยรายใหญ่สุดในโลก คาดการณ์ว่า คดีแชร์ลูกโซ่ของเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค อาจทำให้บริษัทประกันต้องจ่ายเงินชดใช้ตามกฎหมายให้กับผู้เสียหายเป็นวงเงินสูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์

-- บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่สุดของโลก และ ริโอ ทินโต กรุ๊ป เปิดเผยว่า ราคาสัญญาแร่เหล็กรายปีอาจลดลงน้อยกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ หลังอุปสงค์แร่เหล็กในจีนดีดตัวขึ้นในช่วงเริ่มเจรจาราคาสัญญาประจำปี

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศของจีนในเดือนธ.ค.2551 ปรับตัวลดลง 5.7% จากปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 5.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

-- นิสสัน มอเตอร์ โค บริษัทผลิตยานยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น อาจปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีงบการเงินปัจจุบัน หลังอุปสงค์ยานยนต์ร่วงหนัก

-- พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งเป้าปราบปรามการทุจริตอย่างเต็มที่ในปีนี้ เพื่อที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในสังคม ขณะที่เศรษฐกิจจีนก็หนีไม่พ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยจะมีการจัดตั้งระบบการต่อต้านการทุจริตขึ้น เพื่อลงโทษผู้กระทำผิด และสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลและการสร้างเสถียรภาพในสังคม ตลอดจนพัฒนาประเทศ

-- จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายเข้าขั้นวิกฤตในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานของอังกฤษอย่างรุนแรง ดังจะเห็นได้จากข่าวการประกาศปลดพนักงานของทุกภาคอุตสาหกรรมที่มีขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ขณะนักวิเคราะห์คาดว่าในปี 2553 จะมีคนตกงานพุ่งสูงถึง 1 ล้านคน

-- ไครสเลอร์ แอลแอลซี ผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐ ปฏิเสธรายงานของสื่อในประเทศที่ว่า บริษัทกำลังเจรจาขายแบรนด์ จี๊ป ให้กับค่ายรถพันธมิตร นิสสัน มอเตอร์ โค และ เรโนลท์ เอสเอ เพื่อหาเงินมากอบกู้กิจการให้รอดจากภาวะล้มละลาย

-- ซันโย อิเล็กทริก ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีงบการเงินที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. หลังภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาฉุดยอดขายร่วง จากที่ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรสุทธิราว 3.5 หมื่นล้านเยน

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 5 ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัวลงอย่างรวดเร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ รวมทั้งอุปสงค์ภายในประเทศและยอดส่งออกที่ร่วงลง

-- บริษัท เอ็นอีซี อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป เตรียมปลดพนักงานชั่วคราว 1,200 คน จากทั้งหมด 1,400 คน ภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยเอ็นอีซียืนยันว่าบริษัทจะไม่ต่อสัญญาว่างจ้างพนักงานชั่วคราวในโรงงาน 8 แห่ง รวมถึงโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ และโรงงานในเครือที่เมืองยามากาตะ, ชิกะ, คูมาโมโตะ และเมืองอื่นๆ

--ยอดการยึดทรัพย์สินที่จำนองไว้ (foreclosures) ในสหรัฐเมื่อปี 2551 พุ่งสูงขึ้น 81% แตะ 2.3 ล้านราย โดยราคาบ้านที่ร่วงลง การปล่อยเงินกู้เพื่อการจำนองที่เข้มงวดมากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 25 ปี ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าของบ้านและผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ในครอบครอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ