วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยและภาวะตลาดสินเชื่อตึงตัวได้สร้างแรงกระเพื่อมไปถึงตลาดรถยนต์ในยุโรปให้ต้องเผชิญกับวิกฤตยอดขายที่ตกต่ำลง 18% ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่อุปสงค์รถจากค่ายโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, เรโนลต์ เอสเอ และบีเอ็มดับบลิวในปีนี้ร่วงลงหนักสุดในรอบ 15 ปี
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรปเปิดเผยว่า ยอดขายรถในยุโรปเมื่อเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 924,646 คันเมื่อเทียบกับระดับที่ขายได้ 1.12 ล้านคันในปีก่อนหน้านี้ โดยในปี 2551 ยอดขายโดยรวมทรุดฮวบลงหนักที่สุดในรอบ 15 ปีที่ 7.8% เหลือเพียง 14.7 ล้านคัน
ตลาดรถยนต์ของยุโรปเผชิญกับภาวะล่มสลายอย่างรุนแรงจากยอดขายรถในครึ่งปีแรกที่ลดลงเพียง 2.8% ก่อนที่จะดิ่งลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ 26% ในเดือนพ.ย.ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้กดดันให้ค่ายรถหลายแห่งต้องปลดพนักงานและปรับลดอัตราการผลิตเพื่อเคลียร์รถค้างสต็อกออกให้หมด แต่ถึงกระนั้น ยอดขายรถยนต์ในหลายประเทศยังคงตกต่ำลง โดยยอดขายรถยนต์ในสเปนทรุดตัวลง 50% ขณะที่อังกฤษร่วงลง 21% และฝรั่งเศสลดลง 16%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โตโยต้า ค่ายรถอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นมียอดขายที่ร่วงลงหนักถึง 36% ในเดือนธ.ค.ซึ่งตกต่ำลงต่อเนื่องจากที่ลดลง 34% ในเดือนก่อน ขณะที่ทาดาชิ อาริชิมะ ประธานฝ่ายตลาดยุโรปกล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดยุโรปของโตโยต้าจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ลดลง 0.3% เหลือเพียง 5.5% ขณะที่เรอโนลต์รายงานยอดขายที่ทรุดตัวลง 27% แตะที่ 72,407 คัน ส่วนยอดขายรถของเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ในยุโรปเดือนธ.ค.ทรุดตัวลง 16% มาอยู่ที่ 97,119 คัน