เจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐปรับลดประมาณการยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำปีนี้มาอยู่ที่ 10.5 ล้านคัน ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายโดยรวมดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 27 ปี พร้อมทั้งคาดว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะลดลงสู่ระดับ 57.5 ล้านคัน จากระดับ 67.1 ล้านคันในปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายได้บั่นทอนอุปสงค์รถยนต์
ขณะนี้ ทางจีเอ็มกำลังประมาณการยอดขายตลอดทั้งปีเพื่อใช้เป็นแนวทางการปรับลดค่าใช้จ่าย และปรับปรุงการดำเนินงาน รวมถึงกำหนดรายละเอียดที่แสดงให้รัฐบาลเห็นว่า บริษัทจะสามารถคืนเงินกู้ฉุกเฉินจำนวน 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐได้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซาอาจกดดันให้จีเอ็มต้องหาทางขอเงินกู้จากรัฐบาลเพิ่มเติม
จอห์น คาเซซา นักวิเคราะห์จาก Casesa Shapiro Group เปิดเผยว่า "ยอดขายรถยนต์ที่ลดลงใกล้ระดับ 10 ล้านคันถือเป็นหายนะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วให้ยิ่งแย่ลงไปอีก"
ด้านริก วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็มกล่าวว่า เงินกู้ที่บริษัทได้รับจากรัฐบาลในขณะนี้มีอยู่เพียงพอ แต่บริษัทอาจต้องหาเงินทุนเพิ่มเติมในภายหลังหากมีความจำเป็น แม้ว่าบริษัทจะได้รับเงินกู้เบื้องต้น 4 พันล้านดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีการเปิดเผยว่า จีเอ็มอาจประสบปัญหาเงินขาดมือในปลายปี 2551 หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หุ้นจีเอ็มพุ่งสูงขึ้น 7 เซนต์แตะระดับ 3.92 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก