อินเทล คอร์ป ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สุดของโลก เผยผลกำไรของบริษัทอาจกระเตื้องขึ้นหลังผ่านพ้นไตรมาสนี้ไป เนื่องจากลูกค้าเริ่มใช้สินค้าค้างสต็อกหมดบ้างแล้ว
สเตซี่ สมิธ หัวหน้าฝ่ายการเงินของอินเทล เปิดเผยว่า ผลกำไรรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 53% เมื่อไตรมาสที่แล้ว และอาจลดลงแตะระดับ 40% ต้นๆ ในไตรมาสนี้
อุปสงค์คอมพิวเตอร์ที่ร่วงหนักกดดันให้อินเทลต้องลดกำลังการผลิต ส่งผลให้กำไรลดลงตามไปด้วย แต่เมื่อบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ใช้สต็อกสินค้าที่มีอยู่จนหมดและสั่งสินค้าใหม่เพิ่ม อินเทลก็จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตและทำกำไรได้มากขึ้น
"ธุรกิจคอมพิวเตอร์เป็นธุรกิจที่ซบเซาก่อนเพื่อน ดังนั้นมันก็น่าจะเป็นธุรกิจที่ฟื้นตัวและมีเสถียรภาพก่อนเพื่อนเช่นกัน" โคดี้ อาครี นักวิเคราะห์จากสตีเฟล นิโคลอส แอนด์ โค ในดัลลัส กล่าว
อย่างไรก็ตาม อินเทลไม่ได้เผยคาดการณ์ยอดขายเหมือนเช่นที่เคยทำ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนทำให้ยากต่อการคาดเดาอุปสงค์ในตลาด
ถึงกระนั้น พอล โอเทลลินี ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า ทางบริษัทจะยังแบ่งเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเท่าเดิม และไม่มีแผนลดเงินปันผลแต่อย่างใด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นอินเทลทะยาน 3.8% เมื่อวานนี้ หลังจากที่ร่วงลงกว่า 45% เมื่อปีที่ผ่านมา