องค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะขยายตัว 1.0% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมากจากระดับคาดการณ์เมื่อปีที่แล้วที่ 2.5% และยังต่ำกว่าระดับการขยายตัวช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ แต่รายงานของยูเอ็นก็ยังมีข้อมูลที่เป็นบวก คือ ขนาดของเศรษฐกิจโลกจะลดลงในปีนี้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 30
วิกฤตการเงินได้จุดชนวนให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น เศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ล้วนตกอยู่ในภาวะถดถอย และแนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาและเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็ชะลอตัวอย่างรวดเร็ว ยูเอ็นคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมโลกจะชะลอตัวลงเหลือ 1.0% ในปีนี้ แต่สถานการณ์ที่ผันผวนในปัจจุบัน ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นลบขึ้นมาได้
รายงานของยูเอ็นระบุว่า หากวิกฤตสินเชื่อโลกยืดเยื้อ และไม่มีการฟื้นความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจการเงินโดยเร็ว ประเทศที่พัฒนาแล้วก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างหนักในปีนี้ และจีดีพีรวมก็จะร่วงลงไป 1.5%
การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาอาจจะชะลอตัวลงเหลือ 2.7% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำลงอย่างน่าเป็นห่วง เมื่อพิจารณาถึงเรื่องความสามารถในการลดความยากจนและรักษาเสถียรภาพในสังคมและการเมือง สำนักข่าวซินหัวรายงาน