ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสัปดาห์ห้หน้า (19-23 ม.ค.) เงินบาทในประเทศ(Onshore) อาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 34.70-35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ประกอบด้วย ทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเด็นคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายบารัค โอบามา
ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธันวาคม 2551 และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ เดือนมกราคม 2552 จัดทำโดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทในประเทศ ขยับแข็งค่าท้ายสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ท่ามกลางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ก่อนจะดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค การแข็งค่าของสกุลเงินในภูมิภาคในช่วงปลายสัปดาห์ ตลอดจนแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้ส่งออก ทั้งนี้ เงินบาทขยับแข็งค่าได้ต่อเนื่องจนถึงในช่วงปลายสัปดาห์ แม้ว่า กนง.จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75% (ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะลด 0.50%) ในการประชุมช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวยังคงอยู่ในกรอบที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้น โดยเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.85 (ตลาดเอเชีย) เทียบกับระดับ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 มกราคม)