รัสเซียและยูเครนลงนามร่วมกันในวันนี้เพื่อยุติความขัดแย้งเรื่องก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้การส่งก๊าซไปยุโรปต้องหยุดชะงักนานเกือบ 2 สัปดาห์ และส่งผลให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้จัดส่งก๊าซของทั้งสองประเทศ
นายกรัฐมนตรียูเลีย มิโมเชงโก ของยูเครน เดินทางไปยังกรุงมอสโคว์อีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่เพิ่งเจรจากับนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อสุดสุปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อตกลงยุติปัญหาดังกล่าวจะลงนามโดยบริษัท โอเอโอ ก๊าซพรอม ของรัสเซีย กับบริษัท เอ็นเอเค นาฟโทก๊าซ ยูเครนี ของยูเครน
"วิกฤตพลังงานดังกล่าวรุนแรงกว่าครั้งใดในอดีต" โจนาธาน สเติร์น ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยก๊าซของสถาบันศึกษาพลังงานอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวเมื่อวานนี้ "ไม่เคยมีใครคิดมาก่อนว่ารัสเซียจะระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปนานถึง 12 วัน"
ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า ยูเครนจะจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซียเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปหลังได้รับส่วนลด 20% ในปีนี้ ในขณะเดียวกัน อัตราค่าส่งก๊าซที่รัสเซียต้องจ่ายให้ยูเครนในปีนี้จะยังอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปจะไม่ตัดสินเรื่องการชำระหนี้จนกว่าทั้งสองประเทศจะเริ่มส่งก๊าซไปยังยุโรปอีกครั้ง
ทั้งนี้ รัสเซียระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านทางยูเครนตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัท ก๊าซพรอม กล่าวหาว่าบริษัท นาฟโทก๊าซ ลักลอบขโมยก๊าซและไม่ได้จ่ายเงินตามกำหนด ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลให้หลายพื้นที่ในยุโรปตะวันออกขาดแคลนเชื้อเพลิงในช่วงที่อากาศหนาวเย็นสุดขั้ว เนื่องจากกว่า 80% ของก๊าซที่ยุโรปนำเข้าจากรัสเซียต้องส่งผ่านทางยูเครน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน