คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจของสิงคโปร์ (EDB) เปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ (fixed asset investment) ของสิงคโปร์ตลอดปี 2551 อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
"อย่างไรก็ตาม EDB คาดการณ์ว่า ตัวเลขการลงทุนประเภทดังกล่าวจะทรุดตัวลงในปี 2552 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก ซึ่งทำให้บริษัทเอกชนชะลอกการลงทุนหรือระงับแผนการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ อันที่จริงภาวะการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เริ่มส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทบางแห่งเลื่อนแผนการลงทุนและบางแห่งยกเลิกการลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ถดถอยลง" ลิม เซียง กวน ประธาน EDB กล่าวในแถลงการณ์
นายลิมกล่าวว่า ทางคณะกรรมการ EDB กำลังหาทางช่วยเหลือบริษัทให้สามารถรับมือกับภาวะสินเชื่อตึงตัวได้ โดยเกือบ 90% ของอัตราการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เมื่อปีที่แล้วมาจากบริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทสหรัฐที่เข้ามาลงทุนในสัดส่วน 62% ยุโรป 16% และญี่ปุ่น 7%
นอกจากนี้ คณะกรรมการ EDB กล่าวว่า ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เมื่อปีที่แล้วอยู่ในระดับสูงกว่าปี 2550 เล็กน้อยที่ระดับ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และสอดคล้องกับที่คณะกรรมการคาดการณ์ไว้ โดยบริษัทต่างชาติได้เข้าลงทุนในอุตสาหกรรมเคมีถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และอิเล็กทรอนิก 3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
"สิงคโปร์ถือเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญด้านอุตสาหกรรม การวิจัย และการตลาดในภูมิภาคเอเชีย บริษัทจำนวนมากในสหรัฐและยุโรปต่างรู้ดีว่าหากพวกเขาต้องการทำกำไรได้ดีในหลายปีข้างหน้า พวกเขาจะต้องเข้ามาวางรากฐานธุรกิจในเอเชียก่อน นี่จึงเป็นเหตุผลที่สิงคโปร์เป็นแหล่งการลงทุนที่ดีในสายตาของบริษัทต่างชาติ" คณะกรรมการ EDB กล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน