ญี่ปุ่นเผยอุปสงค์ภาคบริการปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย. 2551 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยต่อเนื่องกดดันให้หลายบริษัทต้องปลดพนักงานและลดเงินเดือน
ดัชนีภาคบริการ ซึ่งเป็นตัววัดการจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ และค่าขนส่งของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ปรับตัวลดลง 0.9% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 0.8%
สองบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และ โซนี่ คอร์ป ต่างพยายามลดจำนวนพนักงานเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจนทำให้ยอดส่งออก ค่าแรง และอัตราจ้างงานทรุดหนักในเดือนพ.ย. ในขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์ก็เชื่อว่าผู้บริโภคจะลดการใช้จ่ายลงอีก
"คงเป็นเรื่องยากที่ภาคบริการจะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้" เคียวเฮย์ โมริตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบาร์เคลย์ แคปิตอล ในโตเกียว กล่าว "ผู้บริโภคภาคครัวเรือนต่างรัดเข็มขัดกันอย่างแน่นหนา"
หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า โตโยต้าจะปลดพนักงานชั่วคราว 4,500 ตำแหน่งในโรงงาน 12 แห่งทั่วประเทศในปีนี้ หลังยอดขายยานยนต์ร่วงหนัก
การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนเกินครึ่งของจีดีพีปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งถือว่าต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปี ด้านดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในกลุ่มผู้ที่มีอาชีพอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ อย่างช่างทำผมหรือคนขับรถแท็กซี่ ร่วงลงแตะ 15.9 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2544 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน