องค์การที่ประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั่วโลกในปี 2551 ร่วงลง 21% เหลือเพียง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะวิกฤตการณ์การเงินโลกและภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อังค์ถัดคาดว่า ผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการณ์การเงินโลกจะฉุดรั้งเศรษฐกิจโลกให้ถลำลึกลงอีก และจะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของการลงทุน FDI ซึ่งจะทำให้ตัวเลข FDI จะร่วงลงอย่างต่อเนื่องในปี 2552
ทั้งนี้ อังค์ถัดระบุว่า ตัวเลข FDI ในกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ลดลง 33% ในปี 2551 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้เกิดปัญหากับสถาบันการเงิน จนลุกลามกลายเป็นวิกฤตการณ์สภาพคล่องทั้งในตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้ ขณะที่ตัวเลข FDI ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่นับว่ายังอยู่ในระดับที่ดีแม้ต้องเผชิญผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
"ในระยะใกล้นี้ คาดว่าตัวเลข FDI จะได้รับผลกระทบในด้านลบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน และจะทำให้ตัวเลข FDI ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในปี 2552 ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา" อังค์ถัดกล่าว
นอกจากนี้ อังค์ถัดระบุว่า อัตราการไหลเวียนของตัวเลข FDI จะฟื้นตัวขึ้นหรือไม่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่หลากหลาย รวมถึงโอกาสในการลงทุน การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม แหล่งเงินกู้ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ความเคลื่อนไหวของประเทศส่งออกน้ำมัน การขยายตัวในการลงทุนด้านพลังงานและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และการฟื้นตัวของบริษัทข้ามชาติ สำนักข่าวซินหัวรายงาน