เทอร์รี เลฮีย์ ซีอีโอของเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษกล่าวให้สัมภาษณ์นอกรอบการสัมนากลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่กรุงบรัสเซลว่า รัฐบาลอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ควรจะลดต้นทุนในการกำกับดูแลธุรกิจ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในภูมิภาคให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย นอกจากนี้ การลดดอกเบี้ย ราคาอาหาร เชื้อเพลิง และพลังงานที่ร่วงลงก็จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน และเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติปรับปรุงระบบการเงิน และหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการภาษีการค้าใหม่ๆ
รัฐบาลของหลายประเทศในทวีปยุโรปต่างหาทางช่วยเหลือธนาคารและประสบกับภาวะขาดดุลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางวิกฤตสินเชื่อที่คุกคามการขยายตัว และยังทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง โดยรัฐบาลอังกฤษเป็นรายล่าสุดที่ได้ออกมาคุมเข้มระบบการเงินของประเทศ รวมทั้งรับประกันการซื้อสินทรัพย์ที่มีปัญหา และให้อำนาจแก่ธนาคารกลางอังกฤษในการซื้อหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ
ซีอีโอเทสโก้กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลประเทศต่างๆควรจะควบคุมค่าใช้จ่ายและกฎระเบียบให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุด เพื่อที่จะได้มีการสร้างงาน หากผู้ประกอบธุรกิจไฟแนนซ์ล้มละลายขาดศรัทธาในการค้าแบบเปิดและสภาพตลาดที่เปิดรับการแข่งขันแล้ว ถือว่าเป็นความผิดพลาดเลยทีเดียว เพราะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเอาตัวรอดจากภาวะถดถอย
ซีอีโอเทสโก้ เอียน เชสไชร์ ซีอีโอคิงฟิชเชอร์ และแอนเดอร์ส ดาล์วิก ผู้บริการอีเกียล้วนกล่าวในการสัมนาว่า กฎระเบียบที่มีอยู่ล้วนควบคุมการเปิดตัวร้านใหม่ๆ การติดป้าย รวมทั้งเวลาทำการซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการลดต้นทุน และการจ้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย
ซีอีโอเทสโก้กล่าวว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจค้าปลีกหมายความถึงการเสียงาน และบริษัทไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ได้ ที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกของอังกฤษได้รับผลกระทบจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่า ซึ่งทำให้สินค้านำเข้าจากสหรัฐและจีนมีราคาแพงขึ้น ปีนี้มีแนวโน้มว่า ราคาผลิตภัณฑ์บางประเภทอาจจะสูงถึง 20% หากอัตราแลกเปลี่ยนยังคงทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน บลูมเบิร์กรายงาน