เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจเผชิญภาวะตกต่ำหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ จากผลกระทบของการส่งออกที่ซบเซา ซึ่งสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลต้องผลักดันมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและภาคธุรกิจมากขึ้น
กระทรวงการค้าของสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจหดตัวลงมากสุดที่ 5% ในปีนี้ ซึ่งทางกระทรวงได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้ง 2 ในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดว่า เศรษฐกิจจะตกลง 2% โดยในปีที่แล้วเศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวในระดับ 1.2% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี สิงคโปร์จะรายงานแผนงบประมาณประจำปีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการเร่งให้ความช่วยเหลือบริษัทต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกและการปรับลดการจ้างงาน ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้ตกงานกว่า 10,000 คนและภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายอาจทำให้ตัวเลขคนว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 30,000 คนในปีนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้นักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส กรุ๊ป กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า ยอดคนตกงานในสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 300,000 คนในปี 2553
ด้านนักวิเคราะห์จากยูไนเต็ด โอเวอร์ซีย์ แบงก์ในสิงคโปร์กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้คือสร้างความมั่นใจว่าประชาชนและภาคธุรกิจจะสามารถรับมือกับภาวะถดถอยได้ท่ามกลางภาวะที่อุปสงค์จากต่างประเทศลดลง
ลิม ฮัง เคียง รมว.คลังกล่าวว่า สิงคโปร์กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆที่รุมเร้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งเรามีมาตรการสกัดกั้นภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ไม่กี่ช่องทาง เนื่องจากภาวะชะลอตัวได้ขยายวงกว้างลุกลามไปสู่ภาคธุรกิจสำคัญที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่จะเผชิญภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้