เงินเยนแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินหลักๆ และพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ เนื่องจากเทรดเดอร์มีความวิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
นอกจากนี้ เงินปอนด์สเตอริงยังอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรก่อนที่อังกฤษจะเปิดเผยตัวเลขว่างงานที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งจะยิ่งกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ด้านเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ก่อนที่เยอรมนีรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางยุโรปลดดอกเบี้ยลงด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.10 น. ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 124.89 ปอนด์/เยน จากระดับ 124.47 ปอนด์/เยน และแข็งค่าเทียบยูโรที่ 115.99 ยูโร/เยน จากระดับ 115.85 ยูโร/เยน
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.2873 ยูโร/ดอลลาร์จากระดับ 1.2904 ยูโร/ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ 1.3871 ยูโร/ปอนด์ จากระดับ 1.3928 ยูโร/ปอนด์
สำหรับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2% สู่ระดับ 58.60 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย เช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ดิ่งลง 2.2% แตะที่ 46.91 เยน/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
โทรุ ยูเมโมโตะ นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอลในญี่ปุ่นกล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกจนทำให้เทรดเดอร์เลี่ยงการซื้อขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง"
ทั้งนี้ จากการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับเงินเยนและเงินดอลลาร์นั้นเป็นผลมาจากการคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจว่าจะมีชาวอังกฤษผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 81,000 รายในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปี 2534 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้เวลา 09.30 น.ตามเวลาลอนดอน