บมจ.ปตท(PTT) ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยกลุ่มดีเซล(ดีเซลหมุนเร็วและไบโอดีเซล B5) จะปรับลดลงอีก 60 สตางค์/ลิตร ขณะเดียวกันจะปรับขึ้นราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์/ลิตร(ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85) โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(22 ม.ค. 52) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มีผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯและปริมณฑลของปตท. เป็นดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) อยู่ที่ 18.29 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) อยู่ที่ 16.99 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) อยู่ที่ 18.29 บาท/ ลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) อยู่ที่ 17.49 บาท/ ลิตร, น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) อยู่ที่ 22.79 บาท/ ลิตร
ส่วนน้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) อยู่ที่ 16.84 บาท/ ลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) อยู่ที่ 18.34 บาท/ ลิตร
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน ปตท. กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และข่าวการลงนามข้อตกลงส่งมอบก๊าซธรรมชาติเป็นเวลา 10 ปี ระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากที่รัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติเป็นเวลา 2 สัปดาห์ รวมถึงการถอนทหารอิสราเอลเพิ่มเติมจากฉนวนกาซา ทำให้ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันดีเซลในตลาดโลกอ่อนตัว
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีตามความต้องการใช้ในภูมิภาคที่มีอยู่มาก เนื่องจากเป็นเทศกาลวันหยุดต่อเนื่อง ทั้งวันขึ้นปีใหม่และตรุษจีน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนขายปลีกในประเทศและค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันเบนซินที่เหลือในระดับเพียง 50 สตางค์/ลิตร และก่อนหน้านี้บริษัทผู้ค้าน้ำมันบางรายได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกไปแล้ว ปตท.จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์
สำหรับราคาน้ำมันดิบดูไบวันนี้อยู่ที่ระดับ 40.57 เหรียญสหรัฐฯ น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ระดับ 53.69 เหรียญสหรัฐฯ และดีเซลอยู่ที่ระดับ 54.14 เหรียญสหรัฐฯ ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวน ตามปัจจัยทางพื้นฐานและจิตวิทยาที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณและความต้องการน้ำมัน ทั้งในส่วนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว และการที่กลุ่มโอเปกได้พยายามควบคุมปริมาณน้ำมันให้สมดุลเพื่อพยุงราคาในปัจจุบัน ซึ่งคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ ต่อเนื่องในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด