World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 21 ม.ค.2552

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 21, 2009 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บารัค โอบามา ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศ โดยพิธีจัดขึ้น ณ บริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐ ท่ามกลางประชาชนผู้มาร่วมเป็นสักขีพยานกว่าล้านคน

โอบามา วัย 47 ปี ได้กล่าวปฏิญานตนว่า "ข้าพเจ้าจะทำหน้าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาด้วยความซื่อสัตย์ จะปกปักษ์ รักษา และพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา" ขณะวางมือซ้ายบนคัมภีร์ไบเบิลเล่มเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น เคยใช้ในการทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐในปีค.ศ. 1861 หรือเมื่อ 148 ปีก่อน

-- คริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ SEC หย่อนยานในการตรวจสอบกองทุนแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมายของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ และเพื่อเปิดทางให้นางแมรี่ ชาปิโร ซีอีโอคณะกรรมการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวแทน โดยบทบาทหน้าที่ประธาน SEC ของค็อกซ์ถดถอยลงนับตั้งแต่การล้มละลายของวาณิชธนกิจแบร์ สเติร์นส และเลห์แมน บราเธอร์ส

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดฉากการประชุมวันนี้ เพื่อพิจารณาเรื่องมาตรการสนับสนุนระบบการเงินของบริษัทเอกชน เนื่องจากบริษัทจำนวนมากมีปัญหาในการระดมทุนเพื่อการดำเนินงาน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า แบงค์ชาติญี่ปุ่นจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.1% หลังจากที่ลดดอกเบี้ยไปเมื่อเดือนที่แล้วจากระดับอัตราดอกเบี้ยที่ 0.3%

-- วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติรับรองรัฐมนตรี 7 คนแรกในรัฐบาลของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐแล้ว ภายหลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเสร็จสิ้นลงไม่นาน โดยรมว.ชุดแรกที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์จากวุฒิสภาได้แก่ นายสตีเวน ชู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทอม วิลแซก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เจเน็ต นาโปลิตาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เคน ซาลาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เอริค ชินเซกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทหารผ่านศึก อาร์เน คันแคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และปีเตอร์ ออร์สแซก ผู้อำนวยการกิจการงบประมาณและการบริหารประจำทำเนียบขาว

-- กระทรวงการค้าของสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจหดตัวลงมากสุดที่ 5% ในปีนี้ ซึ่งทางกระทรวงได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้ง 2 ในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดว่า เศรษฐกิจจะตกลง 2% โดยในปีที่แล้วเศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวในระดับ 1.2% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้

-- อินเตอร์เนชั่นเนล บิสิเนส แมชชีน คอร์ป (ไอบีเอ็ม) ยักษ์ใหญ่คอมพิวเตอร์ของสหรัฐคาดว่า ผลกำไรของบริษัทตลอดทั้งปีนี้จะพุ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซาที่สกัดกั้นการขยายตัวของบริษัทหลายแห่ง โดยไอบีเอ็มใช้กลยุทธ์ที่มุ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ทำกำไรได้มากกว่าธุรกิจอื่นๆ เช่น ซอฟท์แวร์ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถยืนหยัดและรอดพ้นจากอุปสรรคด้านเศรษฐกิจที่เลวร้ายถึงขีดสุดมาได้

-- ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปีนี้จะร่วงลงถึง 1.80 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 31% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกทำให้บริษัทข้ามชาติลดค่าใช้จ่ายในโรงงานและเหมืองต่างๆลง

-- มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีพ.ศ.2555 เพราะได้รับแรงหนุนจากความต้องการโลหะมีค่าที่พุ่งสูงขึ้นและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกระตุ้นงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในระดับเฉลี่ย 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 20% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 750 ดอลลาร์/ออนซ์ จากนั้นราคาจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2553, 1050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2554 และ 1,075 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2555 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 34% หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกเคยทำสถิติพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ