แมคควอรี กรุ๊ป คาดการณ์ว่า หุ้นของไต้หวันและเกาหลีใต้จะเป็นหุ้นที่ดีดตัวขึ้นได้สูงสุดในบรรดาตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเมื่อสต็อกสินค้าลดลง และความกังวลเรื่องการรีไฟแนนซ์คลี่คลาย
ทิม ร็อคส์ นักยุทธศาสตร์ฝ่ายหลักทรัพย์เอเชียของแมคควอรี กล่าวว่า หุ้นในตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้อาจจะดีดตัวขึ้นในไตรมาสหน้า เนื่องจากบริษัทต่างๆเริ่มกลับมาผลิตสินค้าหลังจากที่ได้กำจัดสินค้าคงค้างที่มีอยู่มากเกินไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่งจะผันผวนท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้เรื่องการขาดทุน การผิดนัดชำระหนี้ หนี้สูญ เมื่อบริษัทต่างๆรายงานผลประกอบการ
ร็อคส์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวในตลาดเป็นเรื่องของวงจร โดยตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้จะเป็นตลาดหุ้นที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดตลอดทั้งปีนี้ อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันร่วงลง 46% เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้อ่อนตัวลง 41% เนื่องจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท ส่วนดัชนี MSCI Asia-Pacific Index ดิ่งลงถึง 43% ในช่วงดังกล่าว
จนถึงขณะนี้ ดัชนี MSCI regional index อ่อนตัวลง 8.6% และร่วงลง 1.8% ในวันนี้ เพราะความวิตกกังวลเรื่องแบงค์ทั่วโลกขาดทุนมากขึ้นในช่วงวิกฤตสินเชื่อ
บริษัทของไต้หวันจำเป็นต้องรีไฟแนนซ์หนี้สินประมาณ 2.38 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัทในเกาหลีใต้ต้องรีไฟแนนซ์ 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในเอเชีย รองจากจีน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของเงินกู้ 1.93 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งจะครบกำหนดในปีหน้า
ร็อคส์กล่าวว่า บริษัทในภูมิภาคเอเชียประมาณ 43 แห่งจำเป็นต้องรีไฟแนนซ์เป็นเงินจำนวนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ นับรวมถึงบริษัท ซัมซุง การ์ด ผู้ให้บริการเครดิตการ์ด และฮอน ไฮ พรีซิชั่น อินดัสทรี ของไต้หวัน