ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นทรุดหนักเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว นับเป็นการส่งสัญญาณที่ว่าบริษัทต่างๆ อาจต้องตัดสินใจปิดโรงงานและปลดพนักงานเพิ่ม กดดันให้เศรษฐกิจประเทศยิ่งถดถอยลงไปอีก
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นหดตัวลงถึง 35% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการเปรียบเทียบข้อมูล และร่วงหนักกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัวลง 30.3%
การส่งออกสินค้าของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐ จีน และยุโรป ร่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้อุปสงค์รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นลดลง โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, โซนี่ คอร์ป และ ฮอนด้า มอเตอร์ โค ต่างถูกกดดันให้ปลดพนักงานหลายพันตำแหน่งและปิดโรงงานบางส่วน หลังยอดขายและกำไรร่วงลงอย่างมาก
"ภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยกว่าเดิมและกินวงกว้างมากขึ้น" เคียวเฮย์ โมริตะ นักเศรษฐศาสตร์จากบาร์เคลย์ แคปิตอล ในโตเกียว กล่าว "ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าอาจมีการปลดพนักงานและลดเงินเดือนอีก"
ด้านตัวเลขนำเข้าลดลง 21.5% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่มากพอ ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 3.207 แสนล้านเยน (3.6 พันล้านดอลลาร์)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.49 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนซื้อขายอยู่ที่ระดับ 89.78 เยนต่อดอลลาร์ จาก 89.14 เยนต่อดอลลาร์ โดยเงินเยนแข็งค่ารวม 19% เมื่อปีที่ผ่านมา ยิ่งส่งผลเสียอย่างหนักต่อภาคการส่งออก