นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของธนาคารกลางมาเลเซียที่ 0.75% สู่ระดับ 2.5% เมื่อคืนที่ผ่านมานั้นเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างหนัก และคาดว่าในปีนี้ ธนาคารกลางมาเลเซียจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะถดถอย
แอมรีเสิร์ชกล่าวว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของธนาคารมาเลเซียถือเป็นการหั่นดอกเบี้ยลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งจะกระตุ้นให้มีการออกสินเชื่อมากขึ้นและช่วยป้องกันภาวะชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชน ขณะเดียวกันก็เพิ่มรายได้ผู้บริโภคด้วยการลดอัตราการผ่อนชำระเงินกู้รายเดือนลง
รัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3.5% จากระดับ 5% ในปีที่แล้ว ขณะที่แอมรีเสิร์ชคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้เพียง 0-0.5% โดยเศรษฐกิจมีความเสี่ยงจะเผชิญช่วงขาลงจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐ ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวน และวิกฤตการณ์ทางการเมือง
เบนนี่ ชิว ประธานของแอมรีเสิร์ชกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า "เราคาดว่าธนาคารกลางมาเลเซียจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ก่อนถึงสิ้นปีนี้ เพราะเศรษฐกิจอ่อนแอมาก ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.4% ในเดือนธ.ค.จากระดับสูงสุดที่ 8.5% ในเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งทำให้ธนาคารมีช่องทางในการลดดอกเบี้ยลง"
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารกลางยังปรับลดเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงเหลือ 2% จากระดับ 3.5% ซึ่งเป็นการลดครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือนและจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น