นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) ระบุว่า ปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติในช่วงต้นปีที่ผ่านมาลดลงประมาณ 10% หรืออยู่ที่ประมาณ 3,200 -3,300 ล้านลูกบาก์ศฟุต/วัน เนื่องจากมีการใช้ไฟฟ้าลดลง เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้การใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าลดลงไปด้วย แต่ยังคาดว่าทั้งปีนี้การใช้ก๊าซจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ระดับ 3,400-3,500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ปตท.จะปรับแผนการรับซื้อก๊าซธรรมชาติจากแหล่งใหม่ให้ชะลอออกไปจากแผนเดิม เช่น การรับซื้อก๊าซจากแหล่ง M9 ในพม่าที่เดิมจะป้อนเข้ามาในปี ค.ศ.2012-2013 และ แหล่งบงกชใต้ที่เดิมจะป้อนเข้าระบบในปี ค.ศ.2011-2012 และการรับซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในส่วนเพิ่ม ที่จะชะลอการรับซื้อออกไปในปี ค.ศ.2014
ส่วนการรับซื้อ LNG ล็อตแรกยังเป็นไปตามแผนเดิมในปี ค.ศ.2011 ที่รับซื้อจากกาตาร์ตามสัญญา 1 ล้านตันต่อปี
นายจิตรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ปตท.ได้เปิดสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV ของเอกชนเป็นรายแรกในภาคใต้ชื่อสยามราช ซึ่งสามารถรองรับความต้องการใช้ของประชาชนได้ 2,500 คัน/วัน โดยจะทำให้ปตท.ขยายปั้ม NGV ได้มากขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะสามารถขยายปั้ม NGV ได้ 450 แห่งภายในปีนี้
ด้านนายเกียรติ วิมลเฉลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามราชธานี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาทในการก่อสร้างปั้ม NGV โดยคาดปริมาณการจำหน่าน 30 ตัน/วัน หรือมีรายได้ 2 แสนบาท/วัน โดยเป็นระดับที่ปตท.จะให้กำไรประมาณกิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้บริษัทคุ้นทุนภายใน 7-8 ปี
แต่จากการที่รัฐบาลไม่ให้ปรับขึ้นราคา NGV อาจทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าที่จะขยายการลงทุนได้ในอนาคต แต่หากรัฐบาลปล่อยให้ราคาก๊าซ NGV ปรับเพิ่มขึ้น ก็เชื่อว่าจะมีภาคเอกชนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนกิจการปั้ม NGV มากขึ้นตาม