ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ว่าที่รมว.คลังสหรัฐ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีความเชื่อว่าจีนกำลังปั่นค่าเงิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน อีกทั้งยืนยันว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโอบามาจะกดดันจีนให้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แทนการปั่นค่าเงินเพื่อกระตุ้นการส่งออก
"ท่านประธานาธิบดีโอบามาและนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าจีนปั่นค่าเงินหยวนเพื่อหวังผลด้านการส่งออก คำถามก็คือว่าเราจะทำอย่างไรและเมื่อใดที่จะยับยั้งการกระทำของจีนด้วยวิธีแบบสันติ มากกว่าการกดดัน คณะทำงานของโอบามาจะใช้ยุทธศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในมือเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของเรา" ไกธ์เนอร์กล่าว และระบุว่านโยบายดอลลาร์แข็งแกร่งเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
ภายหลังจากการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้แล้ว คณะกรรมการธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภามีมติด้วยคะแนนเสียง 18 ต่อ 5 สนับสนุนไกธ์เนอร์ให้ดำรงตำแหน่งรมว.คลังสหรัฐ แต่ไกธ์เนอร์ต้องรอมติในขั้นตอนสุดท้ายจากวุฒิสภาทั้งคณะ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้หรือสัปดาห์หน้า
ชาร์ลส ฟรีแมน นักวิเคราะห์จากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์เศรษฐกิจระหว่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า การที่คณะทำงานของโอบามาระบุว่าจีนปั่นค่าเงินนั้น ถือเป็นการตีความที่ต่างไปจากคณะทำงานของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ว่าจีนไม่ได้ปั่นค่าเงิน เพียงแต่ปล่อยให้เงินหยวนอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าตลาดเพื่อให้ได้เปรียบด้านการส่งออก
"เรามองว่าการที่คณะทำงานโอบามาฟันธงเช่นนี้จะไม่ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ เรายังต้องการตลาดส่งออกของจีนและต้องการให้จีนถือครองพันธบัตรและตราสารหนี้ของสหรัฐ" ฟรีแมนกล่าว
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ธนาคารกลางจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับการตีความเรื่องค่าเงินหยวนของไกธ์เนอร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน