บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ประกาศลดกำลังการผลิตเหล็กในรอบปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.กว่า 4 ล้านตัน หรือลดลง 12% จากปริมาณการผลิต 33 ล้านตันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 40 ปีของนิปปอน สตีล เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ทรุดตัวลง ซึ่งฉุดรั้งปริมาณการใช้เหล็กลดลงด้วย
มาซาโตะ ซูซูกิ โฆษกนิปปอน สตีล กล่าวว่า นิปปอน สตีลได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่ทรุดตัวลงของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก และบริษัทรถยนต์ค่ายอื่นๆ
โตโยต้าระบุว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกปี 2551 ร่วงลง 4% เหลือเพียง 8.972 ล้านคัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี เนื่องจากยอดขายในตลาดหลักๆทรุดตัวลง รวมถึงตลาดสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น นอกจากนี้ โตโยต้าคาดการณ์ว่าบริษัทจะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ในปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. ซึ่งนอกเหนือจากยอดขายที่ทรุดตัวลงแล้ว การแข็งค่าของสกุลเงินเยนยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดยอดส่งออกของโตโยต้าร่วงลงด้วย
ในช่วงต้นปีที่แล้ว ยอดขายเหล็กของนิปปอน สตีล พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกทะยาขึ้นและความต้องการรถยนต์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีน ปรับตัวขึ้น แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ทรุดตัวลง จึงทำให้นิปปอน สตีลต้องตัดสินใจลดกำลังการผลิต และมีแผนที่จะปิดโรงงานผลิตเหล็กชั่วคราวในเขตโออิตะ โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตอีกครั้งในเดือนก.พ. สำนักข่าวเอพีรายงาน