พ.ต.ต อภิชนัน วัฒนวรางกูล สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเข้าตรวจค้นโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ บริเวณศูนย์การค้าอเวนิว ริมถนนพัทยาสาย 2 หลังได้รับแจ้งจากผู้รับมอบอำนาจว่ามีการนำภาพยนตร์เรื่อง โหดหน้าเหี่ยว 966 และภาพยนตร์เรื่อง สามก๊ก 2 ตอนโจโฉแตกทัพเรือ มาทำการฉายเก็บเงินโดยละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
หลังเข้าตรวจสอบพบว่า โรงภาพยนตร์ดังกล่าวกำลังทำการฉายภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสั่งให้หยุด และควบคุมตัวรองผู้จัดการโรงภาพยนตร์และพนักงานฉายหนัง พร้อมทั้งยึดม้วนฟิล์มภาพยนตร์ และเตาฉายภาพยนตร์รวม 4 เครื่องไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันจัดให้ประชาชนฟัง หรือชมงานแพร่เสียง แพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงิน หรือผลประโยชน์ อย่างอื่นในทางการค้าอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ให้การปฎิเสธที่จะลงลายมือชื่อ และจะให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี
ด้านแหล่งข่าวจาก บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นเพราะสายหนังตะวันออก(ศรีราชา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ฯลฯ) ไม่ส่งภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องมาให้กับโรงหนังเมเจอร์ในภาคตะวันออก รวมถึงพัทยาด้วย ทำให้บริษัทต้องนำภาพยนตร์จากส่วนกลางไปฉายให้ลูกค้า ซึ่งได้โปรโมทและกำหนดการเข้าฉายของภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องเริ่มรอบแรกของคืนวานนี้ (22 ม.ค.)
ทั้งนี้ โรงหนังเอสเอฟซีเนม่าได้เปิดตัวที่พัทยาเป็นครั้งแรก พร้อมกับการเปิดห้างเซ็นทรัลที่พัทยาในวันนี้
แหล่งข่าวคนเดียวกันได้ข้อสังเกตุให้ฟังว่า เจ้าของโรงภาพยนตร์เอสเอฟซีเนม่า เป็นเจ้าของสายหนังทั่วประเทศ และยังเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท สหมงคลฟิลม์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเรื่อง สามก๊ก 2 ตอนโจโฉแตกทัพเรือ ส่วนเรื่องโหดหน้าเหี่ยว 966 นั้น บมจ.อาร์เอส(RS) เป็นเจ้าของภาพยนตร์
"ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดปัญหาขึ้นได้ เพราะให้เราฉายเขาก็ได้ส่วนแบ่งเหมือนกัน ตอนนี้สายหนังกับค่ายหนังกำลังเคลียร์กันอยู่ คงไม่มีปัญหาอะไร" แหล่งข่าว กล่าว