ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์แข็งค่าเทียบปอนด์ หลังอังกฤษเผยจีดีพีหดตัว 1.5%

ข่าวต่างประเทศ Saturday January 24, 2009 08:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 23 ปีเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งวัดได้จากภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่หดตัวหนักสุดในรอบ 29 ปี

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1559 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1544 ฟรังค์/ดอลลาร์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.830 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.790 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.3798 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3858 ดอลลาร์/ปอนด์ และยูโรเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2985 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2984ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.5312 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5274 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่ไต่ระดับขึ้นแตะที่ 0.6557ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6554 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ทั้งนี้ เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างมาก หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 1.5% นับเป็นสถิติที่หดตัวลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ และยังเป็นตัวเลขที่หดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 เนื่องจากวิกฤตการเงินส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการธนาคารและยังฉุดเศรษฐกิจของอังกฤษให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

นักวิเคราะห์มองว่า การที่เศรษฐกิจอังกฤษดิ่งลงขนาดนี้จะทำให้ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดดอกเบี้ยลงอีกระลอก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยส่งแรงหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากขึ้นอีกเมื่อเทียบกับเงินปอนด์

อย่างไรก็ดี ขณะนี้สหรัฐ ญี่ปุ่น และเยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปต่างเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเต็มขั้นแล้ว โดยจะดูได้จากภาคเอกชนของสหรัฐที่ต่างรายงานผลกำไรที่เลวร้ายออกมากันถ้วนหน้า

โดยเจนเนอรัล อิเล็กทริค โค หนึ่งในบริษัทรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเปิดเผยว่าผลกำไรลดลง 46% และคาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่แสนสาหัสของบริษัท ซึ่งความเลวร้ายทางเศรษฐกิจกำลังส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้แต่บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ที่เพิ่งรายงานตัวเลขขาดทุนครั้งแรกกว่า 2.22 หมื่นล้านวอน (16 ล้านดอลลาร์) ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ