ผลสำรวจเผยวิกฤตสินเชื่อครั้งใหญ่อาจฉุดเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยหนักในไตรมาส 4 ในขณะที่ผู้บริโภคและภาคเอกชนต่างลดการใช้จ่ายลงอย่างมาก
ผลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐอาจหดตัวลง 5.5% ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2525 หลังจากที่หดตัวลง 0.5% ในไตรมาส 3 โดยกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ม.ค.นี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และสภาคองเกรส กำลังพิจารณาอนุมัตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 8.25 แสนล้านดอลลาร์ภายในช่วงกลางเดือนหน้า เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยยิ่งกว่านี้ ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายใต้การนำของเบน เบอร์นันเก้ ก็จะประชุมกันในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าทางธนาคารจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ หลังจากที่ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเหลือ 0%
"เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยอย่างหนักในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว" ไบรอัน เบธูน ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจการเงินจากบริษัท ไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ ในแมสซาชูเสทท์ กล่าว "และอาจเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งย่ำแย่ที่สุดในแง่ของความรุนแรงและความลึกล้ำ"
สภาพเศรษฐกิจถดถอยช่วยหนุนให้โอบามาชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. เนื่องจากนโยบาย "change" ของเขาโดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมหาศาล ปัจจุนบันรัฐบาลโอบามากำลังผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัตินโยบายลดภาษีและกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐผ่านโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ด้วยความหวังว่าจะสามารถสร้างงานได้ถึง 4 ล้านตำแหน่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน