สหรัฐเผยราคาบ้านใน 34 รัฐทั่วประเทศทรุดฮวบลง ขณะตลาดอสังหาฯซบเซารุนแรง

ข่าวต่างประเทศ Monday January 26, 2009 14:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

First American CoreLogic เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 34 รัฐทั่วสหรัฐปรับตัวลดลงในปี 2551 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญความยากลำบากมากขึ้น ขณะที่การยึดทรัพย์สินหลุดจำนองได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ รายงานของ First American ยังระบุถึงราคาบ้านเดี่ยวทั่วประเทศที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 10.6% ซึ่งเป็นอัตราการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2519

มาร์ก เฟลมมิ่ง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ First American กล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า "ราคาบ้านยังคงลดลงต่อเนื่องจากปี 2551 แม้ว่าตลาดจะมีอัตราการยึดบ้านหลุดจำนองน้อยลง แต่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายจะยังคงสร้างความเสียหายต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อไป"

ด้านคริสติน่า โรเมอร์ หัวหน้าสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายโอบามากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะเลวร้ายอย่างรุนแรงจากตัวเลขคนตกงาน 2.6 ล้านคนในปีที่แล้ว ขณะที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราการยึดบ้านหลุดจำนองในปี 2551 เพิ่มขึ้น 76% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 3.4 ล้านหลัง

ทั้งนี้ ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวลดลง 18.5% เท่ากับเมื่อเดือนพ.ค.ปี 2547 จากระดับสูงสุดในเดือนก.ค.2549 โดยเมื่อปีที่ผ่านมาราคาบ้านในแคลิฟอร์เนียตกต่ำหนักที่สุดถึง 27% ตามด้วยรัฐเนวาด้าที่วูบลง 23% รวมถึงรัฐอริโซน่าและฟลอริด้าที่ราคาบ้านทรุดฮวบลง 19% และ 18% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม มีบางรัฐที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นสวนกระแสภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เช่น ราคาบ้านในเวสต์เวอร์จิเนียที่พุ่งสูงขึ้น 4.2% รัฐเท็กซัสและเซาท์ดาโกต้าเพิ่มขึ้น 3.6% มอนทานาเพิ่มขึ้น 2.6% และมิซซิสซิปปี้สูงขึ้น 1.7% ส่วนรัฐยูท่าห์สูงขึ้น 1.5% และรัฐนิวเม็กซิโกขยับขึ้น 1.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ