แหล่งข่าวเผยมีแนวโน้มว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะสนับสนุนให้รัฐแคลิฟอร์เนียบังคับใช้กฎควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของรถประเภทต่างๆก่อนรัฐอื่นๆ เพื่อนำร่องให้รัฐอื่นๆประยุกต์ใช้กฎระเบียบเดียวกัน ภายใต้เป้าหมายในการควบคุมภาวะโลกร้อน และคาดว่าทีมงานของนายโอบามาจะเริ่มสรุปกฎเกณฑ์ใหม่ๆซึ่งจะกำหนดให้รถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐคนใหม่มีแผนที่จะขอให้ลิซ่า แจ็คสัน หัวหน้าฝ่ายดูแลสิ่งแวดล้อมให้พิจารณาคำร้องขอของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อที่จะทำหน้าที่เป็นรัฐนำร่องในการลดก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2559 หลังจากที่ทีมงานของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ปฏิเสธคำร้องขอของรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐอื่นๆอีก 13 รัฐมาแล้ว ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถต่างก็ไม่เห็นด้วยกับกฎเกณฑ์ใหม่นี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า โอบามาซึ่งได้ให้คำมั่นว่าจะปรับเปลี่ยนการใช้กฎระเบียบในสมัยอดีตประธานาธิบดีบุชในช่วงการรณรงค์หาเสียงนั้น เตรียมประกาศคำสั่งยกเว้นให้กับรัฐแคลิฟอร์เนียในวันนี้ ทางด้านนายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และแมรี นิโคลส์ หัวหน้าคณะกรรมการทรัพยากรทางอากาศของแคลิฟอร์เนีย ต่างก็ผลักดันให้ทีมงานใหม่ของรัฐบาลเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เคยใช้มาก่อนในสมัยบุช
นิโคลส์เขียนจดหมายถึงโอบามาเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา มีใจความว่า ขอให้สั่งการให้ U.S.EPA. สนับสนุนคำร้องของรัฐแคลิฟอร์เนียทันที เพื่อที่คณะกรรมการจะได้เดินหน้าภารกิจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั่วโลก
ทั้งนี้ บริษัทรถค่ายบิ๊กทรีอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส, ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์ รวมถึงบริษัทรถที่เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตยานยนต์ได้ยื่นฟ้องเพื่อคัดค้านไม่ให้มีการใช้กฎระเบียบควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยชี้ว่า การพัฒนารถให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องใช้เงินทุนสูงหลายพันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่ายรถยังมองว่า โครงการควบคุมดังกล่าวจะยังทำให้เกิดความโกลาหลในด้านการกำกับดูแล และยังจะทำให้บริษัทต้องลดการผลิตประเภทของรถที่บริษัทสามารถขายได้ในแคลิฟอร์เนียและรัฐอื่นๆ เพราะต้องทำตามนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกฉบับใหม่