รมว.พาณิชย์ เดินทางร่วมคณะกับนายกรัฐมนตรีไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุน พร้อมเปิดช่องทางการค้าผ่านอิออนและจัสโก หวังดันการส่งออกสินค้าไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเตรียมจัดงานแสดงสินค้าตามจังหวัดตามแนวชายแดนเพื่อกระตุ้นการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเดินทางร่วมคณะกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) การท่องเที่ยวเห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศ
ทั้งนี้ รมว.พาณิชย์ จะเข้าพบกับ รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น(เมติ) และประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการค้า-การลงทุนให้กับนักลงทุนของญี่ปุ่น รวมถึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกิจไทย-ญี่ปุ่น(เจเทปา) ให้มากขึ้น
ส่วนประเด็นด้านการค้านั้นจะหารือกับผู้บริหารห้างสรรพสินค้าอิออนและจัสโก้ของญี่ปุ่น เพื่อเจรจาให้ญี่ปุ่นเข้ามาทำธุรกิจในไทยได้มากขึ้น และให้ไทยนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางทั้ง 2 ห้างได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้จะมีประเด็นการส่งเสริมโครงการครัวไทยสู่โลก การผลักดันการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน และการขยายความร่วมมือในธุรกิจบันเทิงทุกสาขา
ขณะที่ภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยจะมีประเด็นการหารือกับคู่เจรจาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นการทำการค้าร่วมกันต่อไป
"เลือกไปญี่ปุ่นเพราะต้องเน้นหัวใจของการค้าการส่งออกที่ต้องมีความเชื่อมั่นกันก่อน ในส่วนของพาณิชย์ก็จะไปสร้างความเชื่อมั่นทางการค้าให้เดินหน้าต่อไป แต่เรื่องของการเปิดตลาดเพื่อกระตุ้นการส่งออกปีนี้ ที่บอกว่าจะไปตลาดใหม่ก็ยังมีอยู่" นายราเชนทร์ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของการแก้ปัญหาสภาพคล่องของผู้ส่งออกนั้น ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 10,000 ล้านบาทเพื่อจัดทำเป็นกองทุนประกันการส่งออกแล้ว รวมถึงการเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี ซึ่งเชื่อว่า น่าจะทำให้สภาพคล่องของผู้ส่งออกดีขึ้น เพราะขณะนี้ปัญหาใหญ่ของผู้ส่งออกคือ การขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างมาก
อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ค.52 กรมฯ จะจัดงานแสดงสินค้าทั้งส่วนกลางและภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และนำสินค้าไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านเห็นศักยภาพ เป็นการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมส่งออกให้มากขึ้น ลดผลกระทบจากปัญหาคำสั่งซื้อในต่างประเทศชะลอตัวอันเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
โดยในเดือน ก.ค.นี้จะจัดงานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ ซึ่งปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี และจะมีผู้ค้านำสินค้ามาแสดงกว่า 6,000 บูธ นอกจากนี้จะกระจายไปจัดที่ จ.เชียงใหม่ ในเดือน เม.ย.52, ที่ อ.หาดใหญ่ ในเดือน พ.ค.52 และ จ.ขอนแก่น ในปลายเดือน พ.ค.52 ขณะเดียวกันจะมีการจัดงานลักษณะเดียวกันนี้ที่ จ.อุดรธานี, หนองคาย, มุกดาหาร และ จ.ตาก อีกด้วย