ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบปอนด์,ยูโร ขณะนักลงทุนจับตาประชุม FED

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 27, 2009 07:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) โดยเงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากธนาคารบาร์เคลย์สที่คาดการณ์ว่ากำไรก่อนหักภาษีอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลการประชุมในคืนวันพุธ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3162 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2989 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.3962 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3811 ดอลลาร์/ปอนด์

สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ 89.060 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.810 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1388 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1556 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.5262 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5309 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6594 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6554 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

บาร์เคลย์ส พีแอลซี คาดผลกำไรก่อนหักภาษีจะมีมากกว่า 5.3 พันล้านปอนด์ในปี 2551 แม้ทางธนาคารต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีกว่า 8 พันล้านปอนด์ก็ตาม โดยทางธนาคารจะเปิดเผยผลประกอบการปี 2551 ในวันที่ 9 ก.พ. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม เพื่อหวังคลายความวิตกกังวลในตลาด

"ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้เราจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตสินเชื่อ รายได้ของเรายังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและทำกำไรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายืนยันว่าทางธนาคารไม่จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มเติมจากนักลงทุนหรือรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันอัตราการลงทุนของลูกค้ายังคงอยู่ในระดับสูง" มาร์คัส เอเจียส ประธานบาร์เคลย์ส และ จอห์น วาร์ลีย์ ซีอีโอ ระบุในแถลงการณ์

สถาบันการเงินทั่วโลกเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในตลาดสินเชื่อและตัดบัญหนี้สูญเป็นวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงสุดนับตั้งเกิดวิกฤตการณ์ Great Depression ในสหรัฐ ส่งผลให้รัฐบาลทั่วโลกรวมถึงสหรัฐและอังกฤษตัดสินใจอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้

นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed Fund Rate) ไว้ที่ช่วง 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะถดถอย และคาดว่าเฟดจะหารือกันเรื่องแนวทางอื่นๆในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ