ออสเตรเลียเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค
ผลสำรวจของเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจขยับขึ้น 10 จุด แตะ -20 จุด ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 จุดเป็นครั้งที่ 12 ติดต่อกันแล้ว แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนส่วนมากเชื่อว่าธุรกิจจะย่ำแย่ลงและมีเพียงส่วนน้อยที่เชื่อว่าธุรกิจจะกระเตื้องขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มกระจายงบประมาณ 8.7 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อให้ความช่วยเหลือแรงงานและครัวเรือนต่างๆ เนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูง รายได้ที่ลดลง และสืนเชื่อที่ตึงตัว กดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง นอกจากนั้นนางจูเลีย กิลลาร์ด รักษาการนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่าทางรัฐบาลพร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติมหากวิกฤตการเงินโลกย่ำแย่ลงอีก
"แม้ดัชนีความเชื่อมั่นจะดีดตัวขึ้น แต่แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงย่ำแย่ โดยยอดส่งออก ยอดสั่งซื้อสินค้า และอัตราจ้างงานยังคงซบเซาเช่นเดิม" ริกิ โพลีเจนิส นักเศรษฐศาสตร์จากออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงค์กิง กรุ๊ป ในเมลเบิร์น กล่าว
เนชั่นแนล ออสเตรเลีย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะหดตัวลง 0.25% ในปีนี้ จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 0.5%
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย ประกาศว่าจะปลดพนักงาน 3,400 คนในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดโรงงานนิกเกิล การปิดโรงกลั่นบางส่วน และการลดกำลังการผลิตถ่านโค้กลงถึง 15% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน