ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เตรียมนำเงินครึ่งหลังของงบกู้วิกฤตการเงินรวม 7 แสนล้านดอลลาร์ มาปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกยึดบ้าน
โรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า การใช้เงินครึ่งหลังมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ของโอบามาจะแตกต่างจากการใช้เงินของบุชมาก โดยโอบามาเคยวิจารณ์ว่าการใช้เงินของรัฐบาลชุดเก่าขาดความรับผิดชอบและความโปร่งใส
-- ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการกอบกู้เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นโดยเร็ว หลังจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี
-- ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ประกาศว่า บริษัทจะลดการผลิตในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือลงอีก 50,000 คัน หลังจากที่บริษัทเผชิญกับยอดขายที่ดิ่งลงอย่างหนักทั่วโลก
-- นิโคลัส คอสโม ซีอีโอบริษัท อาเกพ เวิลด์ อิงค์ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลองไอส์แลนด์ในรัฐนิวยอร์ก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและตั้งข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากนายคอสโมเป็นผู้จัดตั้งแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมายและหลอกลวงผู้เข้าลงทุนเป็นเงินราว 400 ล้านดอลลาร์
-- ออสเตรเลียเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค
-- วุฒิสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณพิเศษระยะที่สองมูลค่า 4.79 ล้านล้านเยนแล้วในการประชุมวันนี้ โดยมุ่งเน้นเรื่องแผนอัดฉีดเงินสดให้กับภาคเอกชนมูลค่ารวม 2 ล้านล้านเยน หลังจากสภาได้ผ่านร่างงบประมาณดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 ม.ค. โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) และพรรคนิวโคเมโตะ
-- โนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ โบรกเกอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 3.429 แสนล้านเยน (3.8 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2551 เปรียบเทียบกับผลกำไร 2.18 หมื่นล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
-- ธนาคารกลางอินเดียประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 5.5% อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเหลือเพียง 7% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 7.5-8.0% เนื่องผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและความต้องการผู้บริโภคชะลอตัวลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถดถอยลงเช่นกัน นอกจากนี้ ตัวเลขขาดดุลการคลังยังพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
-- ซีเมนส์ เอจี บริษัทด้านธุรกิจวิศวกรรมรายใหญ่ที่สุดของยุโรปรายงานผลกำไรไตรมาสแรกสูงกว่าคาดการณ์ จากอานิสงส์ของความต้องการด้านอุปกรณ์ในกลุ่มพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น
ซีเมนส์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 20% แตะที่ 2 พันล้านยูโร (2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและการดูแลสุขภาพมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทจะมีรายได้ที่ 1.83 พันล้านยูโร