ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุม FED คืนนี้

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 28, 2009 07:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลราคาบ้านและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 88.900 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 89.000 เยน/ดอลลาร์ แต่ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 1.1404 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1380 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.3176 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3165 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4145 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3964 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.5294 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.5265 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้นแตะระดับ 0.6625 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6590 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

เทรดเดอร์เทขายสกุลเงินดอลลาร์หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 42 ปี เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลต่อข่าวการปลดพนักงานของบริษัทเอกชน ขณะที่ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ๆของสหรัฐซึ่งจัดทำโดย Standard & Poor`s/Case-Shiller ร่วงลงแตะหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18.2% ในไตรมาส 4 ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น

ขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในทวีปยุโรป โดยสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเยอรมนีเดือนม.ค.ขยับขึ้นแตะ 83 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 82.7 จุด ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปได้ลดดอกเบี้ยและรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันพุธ ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed Fund Rate) ไว้ที่ช่วง 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะถดถอย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ