ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียประจำไตรมาส 4 ของปี 2551 ปรับตัวลดลงหนักสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะเพิ่มสัดส่วนการปรับลดดอกเบี้ยลงมากที่สุด นับตั้งแต่เกิดยุคเศรษฐกิจถดถอยในปี 2534
สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวลดลง 0.3% จากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวขึ้น 1.2% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรุดตัวลง 0.4% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าปีที่แล้ว 3.7%
ทั้งนี้ ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาได้บรรเทาแรงกดดันด้านราคาสินค้า ซึ่งยิ่งตอกย้ำกระแสคาดการณ์ของนักลงทุนว่า ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ สัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวที่มีเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือไปจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาในออสเตรเลียและสหรัฐยังทำให้บริษัท Boral Ltd ลดคาดการณ์ผลกำไร ขณะที่หุ้นของเวสต์ฟิลด์ กรุ๊ป ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่บริษัทเปิดเผยถึงรายได้ที่ส่อเค้าลดลง
ชาน โอลิเวอร์ นักวิเคราะห์จาก AMP Capital Investors กล่าวว่า "เงินเฟ้อที่ลดลงเป็นตัวเพิ่มช่องทางให้ธนาคารกลางปรับลดดอกเบี้ย ขณะเดียวกันภาวะเงินฝืดก็อาจเป็นปัญหาที่ออสเตรเลียต้องเผชิญในอนาคต ท่ามกลางภาวะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัว"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.56 น. ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงสู่ระดับ 66.29 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 66.62 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 2.53%
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยลง 1% ไปอยู่ที่ระดับ 3.25% ในการประชุมวันที่ 3 ก.พ. นี้ หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยลงไปแล้ว 3% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.