นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน หลังสิ้นสุดมาตรการ" 6 มาตรการ 6 เดือน" และปรับลดตำแหน่งทศนิยมของอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดังกล่าวให้เป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบ e-paperless ของกรมศุลกากร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.พ. 52 เป็นต้นไป
น้ำมันเบนซินทุกประเภท จากอัตราปกติเดิม อยู่ที่ 3.685/4.685 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 5 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ E 10 และ E 20 ปรับขึ้นจาก 0.0165 บาท/ลิตร เป็น 3.317 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิมอยู่ที่ 3.3165 บาท/ลิตร)
ส่วนแก๊สโซฮอล์ E 85 ปรับจาก 0.0165 บาท/ลิตร มาเป็น 0.750 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิมที่ 2.5795 บาท/ลิตร)
น้ำมันดีเซล กำมะถัน น้อยกว่า หรือเท่ากับ 0.035 ปรับขึ้นภาษี จาก 0.005 บาท/ลิตร เป็น 3.305 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิม 2.305 บาท/ลิตร) , ดีเซล กำมะถัน มากกว่า 0.035 ปรับจาก 2.405 บาท-ลิตร เพิ่มเป็น 4 บาท/ลิตร(อัตราปกติที่ 2.405 บาท/ลิตร) , ไบโอดีเซล(B5) จาก 0.0898 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 2.190 บาท/ลิตร(อัตราปกติเดิม 2.1898 บาท/ลิตร)
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 1,572 ล้านบาท และ ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด และให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนน้ำมันเพื่อ จำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น