กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้เพียง 0.5% ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นอัตราการขยายตัวในระดับที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากวิกฤตการเงินที่บานปลายอาจทำให้ธนาคารทั่วโลกมีตัวเลขขาดทุนสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไอเอ็มเอฟ ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกโดยได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและญี่ปุ่นในปีนี้ลงอยู่ในระดับติดลบ 1.6% และติดลบ 2.6% ตามลำดับ ขณะที่เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนจะหดตัวลง 2.0% ส่วนจีนจะมีอัตราการขยายตัวที่ 6.7% และอินเดียขยายตัวในระดับ 5.1%
"แม้ว่าหลายประเทศจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบด้าน แต่วิกฤตการเงินยังคงสร้างทวีความรุนแรงและฉุดรั้งความเคลื่อนไหวในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นการที่จะได้เห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้อย่างยั่งยืนจึงไม่น่าจะเป็นไปได้จนกว่ากลไกการซื้อขายในภาคการเงินจะฟื้นตัวและปัญหาในตลาดสินเชื่อจะคลี่คลายลงแล้ว"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นการรายงานความเคลื่อนไหวใหม่ครั้งที่สองนับตั้งแต่ไอเอ็มเอฟได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. และได้อัพเดตรายงานวันที่ 6 พ.ย.ซึ่งสะท้อนถึงวิกฤตการเงินที่เลวร้ายในขณะนี้